คำถามที่จำเป็น ที่ผู้ประกอบ ควรตอบ ในปี 2024
ในปี 2024 ผู้ประกอบการควรพิจารณาคำถามสำคัญที่จะช่วยนำทางธุรกิจสู่ความสำเร็จ คำถามเหล่านี้อาจรวมถึง: ธุรกิจของฉันมีความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้มากน้อยเพียงใด? ฉันมีแผนการรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น Generative AI และ Digital Literacy หรือไม่? และฉันได้เตรียมความพร้อมในการจัดการกับความท้าทายทางไซเบอร์และการใช้ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพหรือยัง? นอกจากนี้ ควรพิจารณาถึงเทรนด์การทำงานล่าสุดและวิธีที่ HR สามารถตอบสนองต่อความต้องการของพนักงานในยุคใหม่ รวมถึงการสร้างความเหนียวแน่นและการเชื่อมโยงในทีมงานผ่านความสม่ำเสมอและความกล้าหาญในการนำ และสุดท้าย การให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและมีจริยธรรม ซึ่งรวมถึงการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการสนับสนุนโครงการอนุรักษ์ เป็นต้น การตอบคำถามเหล่านี้อย่างชัดเจนจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถนำพาธุรกิจของตนไปสู่อนาคตที่มั่นคงและประสบความสำเร็จได้. คำถามสำคัญสำหรับผู้ประกอบการในปี 2024 ในปี 2024 โลกของธุรกิจเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์และความท้าทายใหม่ๆ อยู่เสมอ หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการทำเช่นนี้คือการถามคำถามที่ถูกต้อง คำถามต่อไปนี้เป็นคำถามสำคัญที่ผู้ประกอบการควรตอบในปี 2024: 1. ลูกค้าเป้าหมายของคุณคือใคร? สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจลูกค้าของคุณอย่างถ่องแท้ ความต้องการ ความต้องการ และความคาดหวังของพวกเขาคืออะไร? คุณกำลังแก้ปัญหาอะไรให้กับพวกเขา? 2. คุณมีข้อเสนอที่ไม่เหมือนใครอย่างไร? มีอะไรทำให้ธุรกิจของคุณแตกต่างจากคู่แข่ง? คุณเสนออะไรให้กับลูกค้าที่ไม่สามารถหาได้จากที่อื่น? 3. กลยุทธ์การกำหนดราคาของคุณคืออะไร? คุณจะกำหนดราคาสินค้าและบริการของคุณอย่างไร? กลยุทธ์การกำหนดราคาของคุณจะส่งผลต่อผลกำไรและส่วนแบ่งการตลาดของคุณอย่างไร? 4. กลยุทธ์การตลาดของคุณคืออะไร? คุณจะเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายของคุณได้อย่างไร? คุณจะใช้ช่องทางการตลาดใด? คุณจะวัดผลความสำเร็จของกลยุทธ์การตลาดของคุณอย่างไร? 5. แผนธุรกิจของคุณคืออะไร? เป้าหมายและวัตถุประสงค์ระยะยาวของคุณคืออะไร? คุณจะบรรลุเป้าหมายเหล่านั้นได้อย่างไร? คุณจะติดตามและวัดความคืบหน้าของคุณอย่างไร? 6. ทีมของคุณคือใคร? คุณมีทักษะและประสบการณ์ที่จำเป็นเพื่อบรรลุเป้าหมายของคุณหรือไม่? คุณจำเป็นต้องจ้างพนักงานหรือผู้รับเหมาเพิ่มเติมหรือไม่? 7. แหล่งเงินทุนของคุณคืออะไร? คุณจะระดมทุนสำหรับธุรกิจของคุณอย่างไร? คุณจะใช้เงินทุนอย่างไร? คุณจะคืนเงินทุนอย่างไร? 8. ความเสี่ยงที่คุณเผชิญคืออะไร? คุณกำลังเผชิญกับความเสี่ยงทางธุรกิจใดบ้าง? คุณจะบรรเทาความเสี่ยงเหล่านั้นได้อย่างไร? 9. แผนสำรองของคุณคืออะไร? หากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น คุณมีแผนสำรองอย่างไร? คุณจะจัดการกับความท้าทายที่ไม่คาดคิดได้อย่างไร? 10. คุณกำลังมุ่งมั่นสู่สิ่งใด? ทำไมคุณถึงเริ่มต้นธุรกิจนี้? คุณต้องการบรรลุอะไร? การตอบคำถามเหล่านี้จะช่วยให้คุณกำหนดกลยุทธ์ธุรกิจที่แข็งแกร่งและนำพาธุรกิจของคุณไปสู่ความสำเร็จ เคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับผู้ประกอบการในปี 2024: ...
AI ของ Microsoft เปลี่ยนรูปนิ่งเป็นวิดีโอ พูดได้ ร้องได้ สมจริงทั้งสีหน้าและอารมณ์
เทคโนโลยี AI เปลี่ยนรูปนิ่งเป็นวิดีโอของ Microsoft นั้นน่าทึ่งมาก! เทคโนโลยีนี้อยู่ภายใต้ชื่อ Microsoft Video Synthesis ซึ่งสามารถแปลงรูปภาพนิ่งๆ ให้กลายเป็นวิดีโอเคลื่อนไหวได้อย่างสมจริง วิดีโอนี้ไม่ใช่แค่ภาพนิ่งที่ขยับไปมา แต่ AI ยังสามารถสร้างภาพใบหน้าให้เหมือนจริง แสดงอารมณ์ต่างๆ พูด และร้องเพลงได้อีกด้วย เทคโนโลยีนี้น่าสนใจและมีประโยชน์มากมาย ตัวอย่างเช่น: สร้างสื่อการสอน: ครูสามารถใช้ Video Synthesis เพื่อสร้างวิดีโอการสอนที่น่าสนใจ ดึงดูดความสนใจนักเรียน และอธิบายแนวคิดที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างสื่อการตลาด: นักการตลาดสามารถใช้ Video Synthesis เพื่อสร้างวิดีโอโฆษณาที่ดึงดูดความสนใจลูกค้าและโปรโมทสินค้าหรือบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความบันเทิง: นักสร้างสรรค์เนื้อหาสามารถใช้ Video Synthesis เพื่อสร้างวิดีโอตลก ร้องเพลง หรือแม้กระทั่งภาพยนตร์สั้นๆ ได้อย่างง่ายดาย การช่วยเหลือผู้พิการ: Video Synthesis สามารถนำมาใช้เพื่อสร้างวิดีโอแปลภาษาภาษามือ ช่วยให้ผู้พิการทางหูสามารถเข้าถึงข้อมูลและสื่อต่างๆ ได้อย่างเท่าเทียม อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อจำกัดบางประการของเทคโนโลยีนี้ ตัวอย่างเช่น วิดีโอที่สร้างขึ้นอาจดูไม่สมจริงเท่าที่ควร หรือ AI อาจไม่สามารถเข้าใจอารมณ์ของรูปภาพนิ่งได้อย่างถูกต้อง แต่โดยรวมแล้ว เทคโนโลยี Video Synthesis ของ Microsoft นั้นน่าประทับใจและมีศักยภาพมากมาย เทคโนโลยีนี้จะพัฒนาต่อไปในอนาคต และน่าตื่นเต้นที่จะได้เห็นว่าจะมีการนำไปใช้ประโยชน์อย่างไรบ้าง น่าทึ่งและน่ากลัว:...
ราคาบิตคอยน์วันนี้ (23 เม.ย. 2567) พุ่งทะยาน 3.27% อยู่ที่ 66,971 เหรียญสหรัฐ! 🚀📈💰
ราคาบิตคอยน์วันนี้ (23 เม.ย. 2567) พุ่งทะยาน 3.27% อยู่ที่ 66,971 เหรียญสหรัฐ! 🚀📈💰 อัปเดตสดใหม่ล่าสุด! บิตคอยน์กลับมาคึกคักอีกครั้ง พุ่งขึ้นแรง 3.27% ซื้อขายอยู่ที่ 66,971 เหรียญสหรัฐ ดึงดูดนักลงทุนให้จับตามองตลาดคริปโตเคอร์เรนซี อัปเดตราคาบิตคอยน์ 23 เมษายน 2567 🚀 บิตคอยน์พุ่งทะยาน 3.27% ซื้อขายอยู่ที่ 66,971 เหรียญสหรัฐ 🔥🔥🔥 สรุปตลาดคริปโตวันนี้: บิตคอยน์: ⬆️ 3.27% , 66,971.42 เหรียญสหรัฐ อีเธอเรียม: ⬆️ 2.15% , 3,216.35 เหรียญสหรัฐ Tether: ↔️ 0.03% , 1.00 เหรียญสหรัฐ Binance Coin: ⬆️ 4.89% , 608.42 เหรียญสหรัฐ Solana: ⬆️ 6.92% , 158.90 เหรียญสหรัฐ USD Coin:...
ทองคำพุ่งทะยาน! เปิดตลาดเช้านี้ ทองรูปพรรณดีดตัว 550 บาท แตะ 42,500 บาท 19/7/67
1h5w.com: ทองคำพุ่งทะยาน! เปิดตลาดเช้านี้ ทองรูปพรรณดีดตัว 550 บาท แตะ 42,500 บาท ทองคำเปิดตลาดเช้าวันนี้ 19 เมษายน 2567 พุ่งขึ้นแรง 550 บาท ทองรูปพรรณซื้อขายกันที่บาทละ 42,500 บาท ทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 41,600 บาท ขายออกบาทละ 42,100 บาท การปรับขึ้นของราคาทองคำในวันนี้ สืบเนื่องมาจากปัจจัยหลายประการ ดังนี้ ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง กดดันให้นักลงทุนหันมาลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ สถานการณ์ตึงเครียดในภูมิภาค สงครามในยูเครนยังคงยืดเยื้อ ส่งผลต่อความผันผวนของตลาดการเงิน นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ ธนาคารกลางสหรัฐมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ส่งผลดีต่อราคาทองคำ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อไปในระยะสั้น โดยอาจแตะระดับ 43,000 บาทต่อบาททองคำ สำหรับนักลงทุนที่ต้องการซื้อทองคำ แนะนำให้ติดตามราคาทองคำอย่างใกล้ชิด เลือกซื้อทองคำจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือ และเก็บรักษาอย่างปลอดภัย 1h5w.com: 5 สาเหตุที่ทำให้ทองคำพุ่งทะยานในวันนี้ (19 เม.ย. 67) ทองคำกลับมาพุ่งทะยานอีกครั้ง เช้านี้ (19 เมษายน 2567) ทองคำรูปพรรณปรับขึ้น 550 บาท ซื้อขายกันที่บาทละ 42,500 บาท อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ราคาทองคำปรับขึ้น? ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก: เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง สงครามในยูเครน...
Apple ลงทุน 5.8 แสนล้านบาทในเวียดนาม หวังลดการพึ่งพาจากจีน
Apple เพิ่งประกาศเพิ่มเงินลงทุนในเวียดนามมูลค่ากว่า 5.8 แสนล้านบาท เป้าหมายเพื่อกระจายความเสี่ยงและลดการพึ่งพาการผลิตจากจีน การลงทุนครั้งนี้รวมถึง: การลงทุนเพิ่มกับซัพพลายเออร์: Apple จะเพิ่มเงินลงทุนให้กับบริษัทเวียดนามที่ผลิตชิ้นส่วนสำหรับสินค้าต่างๆ ของบริษัท โครงการน้ำสะอาด: Apple ยังริเริ่มโครงการเพื่อมอบน้ำดื่มสะอาดให้กับโรงเรียนในท้องถิ่น การลงทุนครั้งนี้คาดว่าจะสร้างงานใหม่ในเวียดนามกว่า 200,000 ตำแหน่ง แรงจูงใจเบื้องหลังการลงทุน: ความตึงเครียดทางการค้า: ความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ส่งผลให้ Apple เผชิญกับภาษีนำเข้าและความไม่แน่นอนอื่นๆ การกระจายฐานการผลิตไปยังเวียดนามจะช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ ค่าแรง: ค่าแรงในเวียดนามยังคงต่ำกว่าจีน ซึ่งทำให้ Apple ประหยัดค่าใช้จ่ายในการผลิต ประสิทธิภาพ: เวียดนามมีชื่อเสียงด้านแรงงานที่มีทักษะและมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยให้ Apple รักษาคุณภาพการผลิต ผลกระทบต่อเวียดนาม: การเติบโตทางเศรษฐกิจ: การลงทุนของ Apple จะกระตุ้นเศรษฐกิจเวียดนาม และสร้างงานใหม่จำนวนมาก การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน: คาดว่าจะมีการลงทุนเพิ่มเติมในโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนและท่าเรือ เพื่อรองรับการเติบโตของภาคการผลิต การฝึกอบรมแรงงาน: จำเป็นต้องมีการฝึกอบรมแรงงานเพิ่มเติมเพื่อรองรับความต้องการของ Apple ซึ่งจะช่วยพัฒนาทักษะของแรงงานเวียดนาม โดยรวมแล้ว การลงทุนของ Apple ในเวียดนามถือเป็นข่าวดีสำหรับทั้ง Apple และเวียดนาม การลงทุนครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเวียดนาม สร้างงานใหม่ และพัฒนาทักษะของแรงงาน แหล่งข้อมูล: https://m.youtube.com/watch?v=C_0VeO4Ow3w https://jakartaglobe.id/tech/apple-wants-to-increase-investments-in-vietnam https://today.line.me/th/v2/tag/vV1jY9?tag=%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1
บริษัทชิปที่สำคัญอย่าง ASML มีกำไรสูงกว่าคาด แต่ยอดขายไม่เป็นไปตามคาด โดยลดลง 22%
ASML บริษัทผู้ผลิตเครื่องมือผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่สัญชาติเนเธอร์แลนด์ ASML รายงานกำไรสูงเกินคาด แต่ยอดขายต่ำกว่าที่คาด บริษัทชิปยักษ์ใหญ่ ASML ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2567 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงกำไรที่สูงเกินคาด แต่ยอดขายกลับต่ำกว่าที่คาดไว้ รายงานผลประกอบการเผยให้เห็นว่า ASML มีกำไรสุทธิ 1.6 พันล้านยูโร (1.7 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ 1.5 พันล้านยูโร อย่างไรก็ตาม ยอดขายของบริษัทอยู่ที่ 5.1 พันล้านยูโร ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ 5.6 พันล้านยูโร การลดลงของยอดขายนั้นส่วนใหญ่มาจากความต้องการที่ชะลอตัวสำหรับอุปกรณ์การผลิตชิป โดยเฉพาะในเอเชีย ASML ระบุว่ายอดขายในไตรมาสแรกได้รับผลกระทบจาก "สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก" แม้จะมียอดขายที่ต่ำ แต่ ASML ยังคงคาดการณ์ว่าปี 2567 จะเป็นปีที่เติบโต บริษัทคาดการณ์ว่ายอดขายในปีนี้จะอยู่ที่ 24.5-26.5 พันล้านยูโร เพิ่มขึ้นจาก 21.9 พันล้านยูโรในปี 2566 ASML เป็นบริษัทชั้นนำในการผลิตเครื่องมือ EUV lithography ซึ่งใช้ในการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง เครื่องมือเหล่านี้มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และศูนย์ข้อมูล อ้างอิง: https://www.cnbc.com/2024/01/24/asml-earnings-report-q4-and-full-year-2023.html ผลประกอบการของ ASML: บริษัท ASML รายงานว่ากำไรในไตรมาสแรกเกินคาด แต่ยอดขายไม่ถึงเป้าหมาย โดยมีรายได้สุทธิ 5.29...
พนักงาน Google ถูกจับหลังจากประท้วงงานของบริษัทกับอิสราเอล
การประท้วงของพนักงาน Google ที่เกิดขึ้นในสำนักงานของ Google ที่นิวยอร์กและซันนีเวล ได้สะท้อนถึงความขัดแย้งภายในองค์กรและความกังวลเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการต่อต้านโครงการ Nimbus ซึ่งเป็นสัญญามูลค่า 1.2 พันล้านดอลลาร์ที่ Google และ Amazon ได้ร่วมมือกันเพื่อให้บริการคลาวด์และศูนย์ข้อมูลแก่รัฐบาลอิสราเอล พนักงานบางคนมองว่าการทำงานร่วมกับรัฐบาลอิสราเอลอาจนำไปสู่การละเมิดสิทธิมนุษยชนและใช้เทคโนโลยีในการเฝ้าระวังที่ไม่เหมาะสม การปะทะคารมระหว่างพนักงานในเทลอาวีฟและการเคลื่อนไหวต่อต้านการใช้เทคโนโลยีของบริษัทได้เพิ่มความตึงเครียดภายในองค์กร ในขณะที่ Google ได้ดำเนินการตามนโยบายภายใน โดยพนักงานที่เข้าร่วมการประท้วงถูกพักงานและถูกตัดสิทธิ์การเข้าถึงระบบของบริษัท สถานการณ์นี้ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมของพนักงานในการตัดสินใจของบริษัทและความจำเป็นในการมีความโปร่งใสและความรับผิดชอบต่อสังคมในการใช้เทคโนโลยี. พนักงาน Google ถูกจับหลังจากประท้วงงานของบริษัทกับอิสราเอล สรุปข่าว: พนักงาน Google ประมาณ 20 คนถูกจับกุมเมื่อวันอังคารที่ 16 เมษายน 2567 พวกเขาถูกจับกุมระหว่างการประท้วงที่สำนักงานใหญ่ของ Google ในเมือง Mountain View รัฐแคลิฟอร์เนีย การประท้วงเป็นการต่อต้านการตัดสินใจของ Google ที่จะร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีของอิสราเอล นามว่า Nimbus Nimbus พัฒนาเทคโนโลยีที่ใช้ AI สำหรับกองทัพอิสราเอล พนักงาน Google ที่ประท้วงกล่าวหาว่า บริษัทมีส่วนร่วมในการละเมิดสิทธิมนุษยชนของปาเลสไตน์ Google กล่าวว่า เข้าใจความกังวลของพนักงาน แต่บริษัทจะไม่เปลี่ยนแปลงการตัดสินใจที่จะร่วมมือกับ Nimbus รายละเอียดเพิ่มเติม: การประท้วงเริ่มต้นเมื่อเวลาประมาณ 13:00 น....
หุ้นไทยเช้าวันนี้ (17 เมษายน 2567) เปิดเทรดร่วงหนัก 31.20 จุด หรือ -2.26%
หุ้นไทยดิ่งหนัก 30.34 จุด! ตลาดปิดที่ 1,366.04 มูลค่าซื้อขาย 35,293.94 ล้านบาท (17/4/67) สรุปภาพรวมตลาด: ตลาดหุ้นไทยเปิดเทรดเช้าวันแรกหลังหยุดยาวสงกรานต์ ดิ่งลงแรง 30.34 จุด หรือ -2.17% ปิดที่ 1,366.04 จุด มูลค่าการซื้อขาย 35,293.94 ล้านบาท หุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 10 อันดับ ดังนี้: มูลค่าซื้อขาย 10 อันดับ: หลักทรัพย์ ล่าสุด เปลี่ยนแปลง มูลค่า AOM ('000 บาท) CPALL 54.50 -2.50 (-4.39%) 2,534,616.83 SCB XD 105.50 -10.00 (-8.66%) PTTEP 161.00 +3.00 (+1.90%) 1,894,002.15 KTB XD 16.40 -0.70 (-4.09%) DELTA 72.00 -4.25 (-5.57%) 1,133,799.13 KBANK 125.50 -1.00 (-0.79%) 1,084,410.15 BDMS 27.75 0.00 (0.00%) 927,949.63 AOT 65.50 -1.25 (-1.87%) 927,921.65 BBL 144.00 -0.50 (-0.35%) 796,441.20 ADVANC 200.00 -2.00 (-0.99%) 764,046.00 ปัจจัยที่ส่งผลต่อตลาด: ความกังวลต่อนโยบายการเงินตึงตัวของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่อาจจะขึ้นดอกเบี้ยเร็วและแรงกว่าคาด เพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกชะลอตัว จากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน และจากปัญหาการระบาดของโควิด-19 แรงขายทำกำไร จากนักลงทุนบางส่วน หลังจากตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมาแรงในช่วงก่อนหน้า กลุ่มหุ้นที่ปรับตัวขึ้น: กลุ่มพลังงาน กลุ่มค้าปลีก กลุ่มโรงไฟฟ้า กลุ่มหุ้นที่ปรับตัวลง: กลุ่มธนาคาร กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มยานยนต์ แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงถัดไป: ยังมีความเสี่ยงสูง นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและนโยบายการเงินของเฟดอย่างใกล้ชิด ...
การนำแนวคิด หมวกความคิด(Six Thinking Hats) มาใช้กับการลงทุนหุ้น
การนำแนวคิดหมวกความคิดมาใช้กับการลงทุนหุ้น เทคนิคหมวกความคิด (Six Thinking Hats) สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการลงทุนหุ้น เพื่อช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างรอบคอบ มีเหตุผล และบรรลุเป้าหมายทางการเงิน ดังนี้ 1. หมวกสีขาว (White Hat): รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทที่ต้องการลงทุน เช่น ผลประกอบการ งบการเงิน กลยุทธ์ธุรกิจ ผู้บริหาร คู่แข่ง อุตสาหกรรม เศรษฐกิจ ฯลฯ วิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นกลาง โดยไม่ต้องมีอคติ หรือความคิดเห็นส่วนตัว เปรียบเทียบข้อมูลกับบริษัทอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน 2. หมวกสีแดง (Red Hat): ประเมินความเสี่ยงของการลงทุน เช่น ความเสี่ยงทางธุรกิจ ความเสี่ยงทางการเงิน ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ ฯลฯ วิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ทั้งด้านบวกและลบ พิจารณาความสามารถในการรับความเสี่ยงของตัวเอง 3. หมวกสีดำ (Black Hat): มองหาโอกาสและผลประโยชน์ที่เป็นไปได้ เช่น โอกาสการเติบโต โอกาสขยายธุรกิจ โอกาสจากนโยบายภาครัฐ ฯลฯ ประเมินศักยภาพของบริษัท ในระยะยาว พิจารณาจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส อุปสรรค (SWOT Analysis) 4. หมวกสีเหลือง (Yellow...
Baidu กล่าวว่าบอท Ernie ที่มีลักษณะคล้าย ChatGPT มีผู้ใช้งานเกิน 200 ล้านคน
Baidu เผยว่า Ernie บอทที่คล้าย ChatGPT มีผู้ใช้งานเกิน 200 ล้านคน สรุป: Baidu ประกาศว่า Ernie บอทที่คล้าย ChatGPT ของพวกเขามีผู้ใช้งานมากกว่า 200 ล้านคนแล้ว Ernie เปิดตัวครั้งแรกในปี 2022 และได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในหมู่ผู้ใช้ชาวจีน บอทนี้สามารถสร้างข้อความ แปลภาษา เขียนเนื้อหาสร้างสรรค์ประเภทต่างๆ และตอบคำถามด้วยวิธีที่ให้ข้อมูล ความสำเร็จของ Ernie แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของปัญญาประดิษฐ์ในประเทศจีน และความมุ่งมั่นของ Baidu ในการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีนี้ รายละเอียดเพิ่มเติม: Ernie ได้รับการฝึกฝนเกี่ยวกับชุดข้อมูลขนาดใหญ่ของข้อความและโค้ด สามารถสร้างข้อความได้ในหลายภาษา บอทนี้ยังสามารถใช้เพื่อเขียนบทกวี โค้ด สคริปต์ ชิ้นดนตรี อีเมล จดหมาย ฯลฯ Baidu วางแผนที่จะพัฒนา Ernie ต่อไปและเพิ่มคุณสมบัติใหม่ๆ ให้กับบอท แหล่งที่มา: Baidu says its ChatGPT-like Ernie bot exceeds 200 million users: https://www.cnbc.com/2024/04/16/baidu-says-its-chatgpt-like-ernie-bot-exceeds-200-million-users.html