บล.กรุงศรี พัฒนสินฯ ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้อ่อนตัว 1,515-1,510 จุด ตามทิศทางตลาดหุ้นรอบบ้านที่ได้แรงกดดันจากประธานเฟดย้ำพร้อมเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเพื่อกดเงินเฟ้อสู่เป้าหมาย 2% แนวโน้มฟันด์โฟลว์ต่างชาติที่ไหลออกต่อเนื่องเป็นตัวฉุดดัชนี
วันที่ 22 มิถุนายน 2566 บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสินฯ รายงานภาวะตลาดหุ้นไทยว่าวานนี้ดัชนี SET Index ลดลง 15 จุด (-1.01%) ปิดที่ระดับ 1,522 จุด ปรับลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ ผิดหวังจีนกระตุ้นเศรษฐกิจน้อยเกินไป ประกอบกับการเมืองในประเทศยังไม่นิ่งกดดันให้ฟันด์โฟลว์ต่างชาติกลับมาไหลออก
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ประเมิน SET Index อ่อนตัวแนวรับ 1,515-1,510 จุด ตามทิศทางตลาดหุ้นรอบบ้านที่ได้แรงกดดันจากเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงสู่เป้าหมาย 2% รวมถึงแนวโน้มฟันด์โฟลว์ต่างชาติที่ไหลออกต่อเนื่องเป็นตัวฉุดดัชนี
อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวระดับสูงจะเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน อีกทั้งแรงซื้อหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวจะช่วยหนุนให้ดัชนีสลับรีบาวนด์ขึ้นได้
สำหรับรายละเอียดประเด็นสำคัญคือ 1.ประธานเฟดย้ำพร้อมเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเพื่อกดเงินเฟ้อ แต่เป็นสิ่งที่ตลาดรับรู้ไปแล้ว โดยนาย เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดแถลงนโยบายรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรส (ส.ส.) เน้นย้ำเฟดพร้อมปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อกดให้อัตราเงินเฟ้อลดลงสู่ระดับเป้าหมายที่ระดับ 2% (ปัจจุบัน US Core PCE อยู่ที่ 4.7%) อย่างไรก็ตามเราไม่ได้ตื่นตระหนกกับปัจจัยนี้ เนื่องจากเป็นสิ่งที่ตลาดรับรู้อยู่แล้ว (คล้าย FED Meeting)
2.กลุ่มน้ำมัน-ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัว คาดสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง โดยราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.3 เหรียญ ปิดที่ระดับ 72.53 เหรียญต่อบาร์เรล ตลาดเข้าซื้อดักเก็งกำไรตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะปรับตัวลงประมาณ 4 แสนบาร์เรล ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าปรับขึ้น 1 ล้านบาร์เรล สะท้อนดีมานด์พลังงานที่ยังแข็งแกร่งในสหรัฐ
3.คาดธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยหลังจากอัตราเงินเฟ้อของอังกฤษยังอยู่ในระดับสูง เราคาดว่าธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% จาก 4.5% เป็น 4.75% หลังจากที่วานนี้อังกฤษรายงานอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (Headline CPI) เดือน พ.ค. ทรงตัวที่ระดับ 8.7% สูงกว่าที่ Consensus คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 8.4% ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) เพิ่มขึ้นแตะระดับ 7.1% จาก 6.8% ในเดือน เม.ย. และมากกว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ 6.8%
กลยุทธ์การลงทุนแนะนำ Selective Buy หุ้นแนวโน้มกำไรไตรมาส 2 ยังคงเติบโต และหุ้นทพลังงานตามราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น
ส่วนหุ้นแนะนำวันนี้แนะนำ PSL (ปิด 9.85 บาท ซื้อ/เป้า IAA Consensus 14.50 บาท) ซื้อเก็งกำไรตามดัชนีค่าระวางเรือที่เพิ่มขึ้นแรง โดยวานนี้ดัชนีค่าระวางเรือเทกองเพิ่มขึ้น 60 จุด (+5.57%) ปิดที่ระดับ 1,138 จุด
และ SPA (ปิด 11.2 บาท ซื้อ/เป้า IAA Consensus 13.10 บาท) ผลประกอบการพลิกมีกำไรเป็นไตรมาส 2 ติดต่อกัน และคาดว่าจะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในไตรมาส 2 จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนซึ่งคิดเป็น 50% ของลูกค้าทั้งหมด