หน้าแรก ริวิว หนือสือ โหมดการใช้แอร์ต่างๆบนรีโมท

โหมดการใช้แอร์ต่างๆบนรีโมท

1682
0

รีโมทแอร์จะมีโหมดหลักๆอยู่ 5 โหมด

1.โหมด Auto หรือบางรุ่นอาจใช้คำว่า I Feel

สำหรับในโหมดนี้นั้นจะเป็นการปรับแอร์ให้อยู่ในโหมดที่จะสามารถปรับเปลี่ยนอุณหภูมิได้ต ามความเหมาะสม ทั้งความแรงของพัดลมและความเย็นของแอร์ โดยจะมีการวัดอุณหภูมิแล้วมีการปรับได้อย่างอัตโนมัติต าม สภาพอากาศ ภายในห้องที่เป็นอยู่

2.แอร์เย็นขึ้น ประหยัดเงินลงด้วยการเปิดพัดลมช่วย

วิธีที่จะทำให้แอร์เย็นเร็วทันใจและยังคงช่วยประหยัดค่าไฟได้ด้วย นั่นก็คือ การเปิดพัดลมจะช่วยระบายไอเย็นจะกระจายได้อย่างทั่วห้อง หากรู้สึกไม่ร้อน มากก็สามารถที่จะปรับอุณหภูมิความเย็นขึ้นไปที่ 27-28 องศายังได้เลย จะยังทำให้ในห้องมีความเย็นอยู่ ค่าไฟถูกลงได้และยังได้รับความเย็นจากแอร์และพัดลมด้วย

3.โหมด Fan

โหมดนี้นั้นจะเป็นการตัดระบบการทำงานในส่วนของคอนเดนซิ่งยูนิต ที่อยู่ด้านนอ กห้อง โดยจะใช้งานเพียงชุดคอยล์เย็นซึ่งเราจะสามารถทำการปรับความแรงของพัดลมได้ด้วย แต่ไม่สามารถที่จะตั้งอุณหภูมิได้ ลมที่ออ กมาจากตัวแอร์นั้น จะเป็นลมที่เป็นอุณหภูมิห้องในขณะนั้น จะเป็นลมที่ไม่มีความเย็น

เพราะระบบทำการตัดไม่ให้คอมเพรสเซอร์ทำงานและไม่มีน้ำย า แอร์ไหลออ กไปยังชุดคอยล์เย็น โดยส่วน มากแล้วโหมดนี้จะใช้ก่อนปิดแอร์ประมาณ 10-15 นาทีก่อนที่จะทำการปิดแอร์นั้น นั่นเป็นเพราะว่าจะเป็นโหมดที่ช่วยไล่ความชื้นที่อยู่ภายในป้อง กันปัญหาแอร์มีกลิ่นอับ

4.โหมด Dry

สำหรับในโหมดนี้จะเป็นโหมดที่ช่วยลดระดับความชื้นในห้อง หากแอร์อยู่ในโหมดนี้จะเป็นสัญลักษณ์ของรูปหยดน้ำ จะมีความปรับให้ความชื้นในห้องออ กมาเป็นหยดน้ำและไหลไปต ามท่อแอร์ หากอยู่ในโหมดนี้นั้นจะไม่สามารถกำหนด

หรือทำการตั้งอุณหภูมิได้ ซึ่งจะนำเอาความชื้นออ กจากในห้องนี้ จะใช้ระบบแอร์ทำการควบแน่นความชื้นภายในอากาศ ที่เกิดขึ้นบนแผงทำความเย็น

5.โหมด Cool

สำหรับโหมดนี้จะแทนด้วยสัญลักษณ์รูปหิมะ จะเป็นปุ่มกดเป็นโหมดที่เราจะสามารถกดตั้งอุณหภูมิให้มีความเย็นต ามที่ต้องการ กดไปที่โหมดนี้แล้วทำการกดเปลี่ยนปุ่มขึ้นลงให้ได้ระดับความเย็นที่ต้องการ

และสำหรับตำแหน่งในการติดตั้งแอร์ก็เป็นเรื่องที่สำคัญ หากเราติดตั้งแอร์ในจุดที่มีตู้หรือและมีเฟอร์นิเจอร์ต่างๆวางเอาไว้ ก็จะทำให้แอร์ไม่สามารถกระจายความเย็นได้อย่างทั่วถึงทั้งห้อง การติดตั้งแอร์บริเวณที่ติด กับผนังที่ได้รับได้รับความร้อนอยู่เป็นประจำ ก็จะทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้นค่าไฟแพงขึ้นด้วย

 

การที่แอร์จะสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เราจะต้องรู้จักการปรับโหมดการใช้งานแอร์ให้ถูกต้องต ามสถานการณ์ต่าง ๆ เพราะนอ กจากเราจะได้สภาพอากาศและอุณหภูมิที่เหมาะสมแล้ว การปรับโหมดแอร์อย่างถูกต้องต ามสภาพอากาศยังเป็นอีกหนึ่งวิธีการดูแลรั ก ษ าแอร์ให้สามารถใช้งานไปได้นาน ๆ อีกด้วย

ที่มา : sit-smiling.com

 

 

แอร์แต่ละรุ่นมักจะประกอบไปด้วย 4 โหมด คือ Auto Mode, Cool Mode, Dry Mode, Fan Mode โดยมีคุณสมบัติการใช้ที่เหมาะสมดังนี้

Auto Mode เป็นโหมดที่นิยมใช้กันมากที่สุด เป็นการปรับความเย็นโดยอัตโนมัติที่เซนเซอร์ที่ตัวแอร์กำหนดไว้ เมื่อเปิดแอร์แล้ว พัดลมแอร์จะทำหน้าที่หมุนเร็วๆ เพื่อจะให้ห้องนั้นเย็นในขนาดกำลังเหมาะ เมื่อห้องเย็นแล้วก็จะปรับไปที่โหมด Cool หรือ Dry โดยอัตโนมัติ เหมาะกับผู้ที่ต้องการความสะดวก สบาย ไม่ต้องการปรับเองหรือปรับซับซ้อน เหมาะกับห้องที่มีคนอยู่หลายคนและมีการเดินเข้าเดินออก ไม่เหมาะกับห้องที่อยู่เพียงคนเดียว

Cool Mode เหมาะสำหรับวันที่อากาศร้อนอบอ้าวหรืออากาศภายนอกเย็น เป็นการกำหนดการปรับตามอุณหภูมิตามใจต้องการ ซึ่งสามารถใช้โหมดนี้ได้เมื่อถึงอุณหภูมิที่กำหนดไว้ตามรีโมทแอร์ เช่น 23 องศา ความเย็นก็จะไปอยู่ที่ 23 องศาและแอร์ก็จะตัดทันที เป็นความสะดวกสบาย ที่ผู้ใช้ต้องการให้ห้องนั้นเย็นมากหรือน้อยได้ตามใจต้องการ

Dry Mode เป็นโหมดที่ทำงานเหมือนกับ Cool Mode คือสามารถปรับให้อุณหภูมิห้องร้อนหรือเย็นเท่าที่ต้องการ แต่จะเพิ่มการควบคุมความชื้นมากขึ้น ดังนั้นโหมดนี้จะเหมาะมากสำหรับห้องที่มีสิ่งของที่ไม่ต้องการความชื้น ก็จะใช้โหมดนี้ได้ แต่ข้อแตกต่างจาก Cool Mode คือความเย็นจะไม่ฉ่ำเท่าเพราะโหมดนี้ช่วยควบคุมความชื้นออกไปจากห้องแล้ว จึงรู้สึกเย็นแต่แห้งไม่ชุ่มชื้น

Fan Mode เหมาะสำหรับห้องที่มีกลิ่นอับ ต้องการให้มีอากาศหมุนเวียน จากภายนอกให้เข้ามา ด้วยการปรับแอร์ไปที่โหมด Fan Mode ซึ่งเป็นการทำงานเฉพาะพัดลมเพียงอย่างเดียว ลมที่พัดออกมานั้นจะมีแค่ลมไม่มีความเย็นซึ่งจะเป็นอุณหภูมิแบบปกติของห้อง เป็นการใช้พัดลมของแอร์ให้ช่วยพัดให้อากาศถ่ายเทเท่านั้น ไม่เหมาะที่จะอยู่อาศัยขณะทำงานอยู่โหมดนี้ ซึ่งบางท่านหากไม่ทราบจริงๆ ก็จะคิดว่าแอร์ไม่ทำความเย็นหรือเสียไปแล้ว

เมื่อทราบแบบนี้แล้ว ย่อมไม่ยากต่อการใช้งานอีกต่อไป การเลือกปรับโหมดได้เหมาะกับโอกาส อุณหภูมิ และความต้องการยิ่งจะเป็นการใช้งานแอร์ที่คุ้มค่า ที่สำคัญยังเป็นการช่วยประหยัดไฟได้ดีอีกด้วย นับเป็นเรื่องที่ดีที่ไม่ควรมองข้าม

1. โหมดอัตโนมัติ (Auto Mode)

อุณหภูมิร้อน ๆ หนาว ๆ คงไม่ดีต่อการพักผ่อน และอยู่อาศัยภายในห้องมากนัก การเลือกใช้ โหมดในรีโมทแอร์ที่ให้ความสะดวกสบาย และง่ายในการเปิดใช้งานแอร์มากที่สุดคงหนีไม่พ้นโหมดอัตโนมัติ หรือ Auto Mode ซึ่งเป็นโหมดการทำงานที่จะช่วยปรับอุณหภูมิของแอร์ให้เหมาะสมกับสภาพอากาศทั้งภายในห้องและภายนอกห้อง ทำให้อุณหภูมิอยู่ในระดับที่พอดีไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไป โดยระหว่างการทำงานของโหมดแอร์อัตโนมัติจะมีการปรับโหมดระหว่าง Dry กับ Cool เพื่อช่วยเพิ่มความสบายระหว่างวันพักผ่อนหรือนั่งทำงาน

2. โหมดทำความเย็น (Cool Mode)

สำหรับใครที่ชอบให้อากาศภายในห้องเย็นสบาย การเลือกใช้โหมดแอร์ Cool Mode จะช่วยให้อุณหภูมิภายในห้องเย็นสบาย ในแบบที่ไม่หนาวจนเกินไป เพราะสามารถปรับอุณหภูมิ และความเร็วของพัดลมได้ตามที่ต้องการ เมื่ออุณหภูมิลดลงในระดับที่ตั้งไว้แอร์จะตัดการทำงาน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งข้อดีที่ไม่เพียงแต่จะได้ความเย็นสบายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังช่วยประหยัดพลังงานให้กับบ้านได้อีกด้วย ในช่วงหน้าร้อนหลายๆ บ้านจึงนิยมในโหมดทำความเย็น หรือ Cool Mode เพื่อช่วยลดอุณหภูมิเพิ่มความเย็นในการพักผ่อนตลอดทั้งวัน หรือขณะทำกิจกรรม

3. โหมดลดความชื้น (Dry Mode)

ปัญหากลิ่นอับ เชื้อรา ที่เกิดขึ้นจากความขึ้นภายในห้อง อาจเป็นเพราะเราเลือกใช้โหมดการทำงานของแอร์ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าฝน หากสังเกตโหมดในรีโมทแอร์ จะมีอยู่โหมดหนึ่งที่เป็นรูปหยดน้ำ ซึ่งหลาย ๆ คนรู้จักในชื่อ Dry Mode หรือโหมดการทำงานของแอร์ที่ช่วยลดความชื้นของอากาศภายในห้อง และไม่เพียงแต่ความชื้นเท่านั้นเรื่องของกลิ่นอับ เชื้อรา ที่อาจเกิดขึ้นได้ทั้งภายในแอร์ รวมทั้งสภาพแวดล้อมภายนอกโดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน โหมดแอร์ลดความชื้นจะเป็นอีกหนึ่งโหมดที่หลาย ๆ บ้านจำเป็นต้องเปิดใช้งาน โดยการทำงานของโหมดลดความชื้นคือ ตัวแผงทำความเย็นที่มีอุณหภูมิต่ำ จะดูดความชื้น และควบแน่นกลายเป็นหยดน้ำ แล้วระบายออกผ่านท่อน้ำทิ้ง ทำให้ลดความชื้นภายในห้อง อากาศแห้งขึ้น

4. โหมดพัดลม (Fan Mode)

โหมดแอร์พัดลม เป็นโหมดที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ใช้งานมากนัก หรือบางครั้งเปิดใช้งานอัตโนมัติหากกดใช้งานบนรีโมทแอร์เป็นโหมดอัตโนมัติ เพราะโหมดพัดลม เป็นโหมดการทำงานที่ให้เพียงแค่ลมจากพัดลมธรรมดาที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการทำงานเช่นเดียวกับโหมดทำความเย็น หรือ Cool Mode ส่วนใหญ่แล้วโหมดแอร์ Fan Mode จะถูกเปิดใช้งานเพื่อช่วยลดหรือไล่กลิ่นไม่พึงประสงค์ กลิ่นอับ ภายในห้องที่ไม่มีหน้าต่าง

5. โหมดประหยัดพลังงาน (Smart Saving Mode)

เปิดแอร์ทั้งวันอย่างไรโดยไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายภายในบ้าน หากลองสังเกตโหมดแอร์ในรีโมทจะมีอยู่โหมดหนึ่ง คือ โหมดประหยัดพลังงาน ซึ่งได้รับความนิยมในการเปิดใช้งาน เพราะเหมาะกับการใช้งานแอร์ที่จำเป็นต้องเปิดทิ้งไว้ โดยไม่จำเป็นต้องปิดแม้ในเวลาที่สมาชิกอยู่บ้านไม่มากนัก หรือออกไปทำธุระนอกบ้านไม่นาน โดยระบบการทำงานของโหมดแอร์ประหยัดพลังงานนั้นจะไม่เร่งรีบเท่าโหมดแอร์ทำความเย็น หรือ Cool Mode โดยแอร์จะค่อยๆ ทำงาน ไร้เสียงรบกวน ให้ความเย็นคงที่ และสม่ำเสมอ

โหมดประหยัดพลังงานอีโคโน (Econo)

เป็นอีกหนึ่งโหมดแอร์ที่ช่วยประหยัดพลังงาน เซฟค่าไฟ และช่วยลดโลกร้อนในระยะยาวได้ บางคนอาจจะไม่คุ้นชินกับโหมด Econo เท่าไหร่นัก โดยกระบวนการการทำงานของโหมดแอร์นี้จะช่วยให้อุณหภูมิภายในห้องมีความคงที่ โดยที่แอร์ไม่ทำงานหนัก แต่จะค่อย ๆ ผ่อนการทำงานของคอยล์เย็นและคอยล์ร้อนลง และใช้พัดลมภายในแอร์กระจายความเย็นไปทั่วทั้งห้อง ซึ่งโหมด Econo มีอยู่ในแอร์ไดกิ้นหลากหลายรุ่น เช่น FTKQ , FTKF , FTKC เป็นต้น