หน้าแรก ข่าวเศรษฐกิจ หุ้นไทยแกว่งตัว 1,670-1,685 จุด คาดดัขนี CPI สหรัฐพุ่งเร่งเฟดขึ้นดอกเบี้ย

หุ้นไทยแกว่งตัว 1,670-1,685 จุด คาดดัขนี CPI สหรัฐพุ่งเร่งเฟดขึ้นดอกเบี้ย

1376
0
© Matichon ภาพประกอบข่าว

บล.กรุงศรีประเมินดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้คาดแกว่งตัว 1,670-1,685 จุด จากคาดการณ์ตัวเลขดัชนี CPI สหรัฐพุ่งขึ้นเร่งเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยกดดันดัชนีสลับอ่อนตัว ขณะที่วันนี้จับตาประชุม ครม.เคาะต่อสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว

วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี หรือ บล.กรุงศรี คาดดัชนีหุ้นไทย (SET) แกว่งตัว 1,670-1,685 จุด แม้ภาวะตลาดจะได้แรงซื้อดักงบและเงินปันผลปี 2564, ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เตรียมผ่อนคลายมาตรการคุมโควิดเพิ่มเติมในสัปดาห์นี้ รวมถึงราคาน้ำมันดิบทรงตัวระดับสูง อย่างไรก็ตามตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) สหรัฐเดือน ม.ค.ที่จะประกาศ 10 ก.พ. ซึ่ง consensus คาด +7.3% (YoY) อาจเป็นตัวเร่งให้ ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นซึ่งจะกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัวลง

สำหรับปัจจัยสำคัญวันนี้ เจรจานิวเคลียร์สหรัฐ-อิหร่านมีความคืบหน้ากดราคาน้ำมันดิบลดลง 99 เซนต์ (-1.1%) ปิดที่ระดับ 91.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากมีรายงานว่าคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้คืนสถานะยกเว้นการคว่ำบาตรให้แก่อิหร่าน เพื่อเปิดทางสู่โครงการความร่วมมือด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์นานาชาติ และสุดท้ายสหรัฐอาจจะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอุตสาหกรรมพลังงานส่งผลให้อิหร่านสามารถส่งออกน้ำมันดิบได้ทันที

วันนี้ติดตามประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประเด็นต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว เบื้องต้นมีการคาดการณ์ว่า ก.มหาดไทยจะเสนอ ครม. พิจารณาขยายสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวอีก 40 ปี ให้กับทาง BTS หลังจากที่โครงการนี้เคยนำเข้าที่ประชุม ครม.มาแล้ว แต่โดนตีตกออกไป เนื่องจากยังมีหลายข้อมูลที่มีความไม่ชัดเจน หากวันนี้มีการอนุมัติจริงจะเป็นบรรยากาศ (sentiment) บวกต่อการลงทุนของ BTS

อย่างไรก็ตาม ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 9 ก.พ. นี้ คงมุมมองเดิมโดยคาดว่า แบงก์ชาติจะมีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.5% ตามเดิม เพื่อสนับสนุนให้เศรษฐกิจมีการฟื้นตัว ส่วนอัตราเงินเฟ้อซึ่งล่าสุดปรับขึ้นสู่ระดับ 3.23% สูงสุดในรอบ 9 เดือน และอยู่เหนือกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 1-3% ไปแล้ว แต่เราเชื่อว่าเป็นการปรับขึ้นแค่ชั่วคราว

บล.กรุงศรี แนะนำหุ้นเด่นวันนี้ ได้แก่

– TU หรือ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) คาดมีกำไรสุทธิไตรมาส 4/64 ที่ 2.1 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 9%qoq และ 45%yoy ค่าเงินบาทอ่อนค่าหนุนราคาขายและปริมาณขายเพิ่มขึ้น ไตรมาส 3 ปลดล็อก Value เงินลงทุนในบริษัทลูกจากแผน spin-off หุ้น i-Tail ซึ่งเป็นบริษัทลูกเข้าตลาดฯ

– HMPRO หรือ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ราคาปิดที่ 14 บาทต่อหุ้น แนะนำซื้อ/เป้าหมายราคาที่ 17 บาทต่อหุ้น เปิดเมืองเปิดประเทศหนุนยอด SSSG พลิกเป็นบวก 12% ในไตรมาส 4/64 เทียบกับ -11% ในไตรมาส 3/64 หนุนกำไรสุทธิไตรมาส 4 พุ่งเท่าตัว เบื้องต้นคาดมีกำไรสุทธิ 1,576 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 81%qoq และ 2%yoy